[INSERT_ELEMENTOR id=”1549″]
บทความนี้จะเล่าวิธีการแก้ไข้ปัญหา DLG_FLAGS_INVALID_CA ที่เกิดขึ้นในขณะเราเข้าบางเว็ปไซต์ หรืออาจจะเกิดขึ้นทุกเว็ปไซต์ โปรแกรมเล่นเน็ตหรือเว็บบราวเซอร์ บางตัวอาจจะใจดียอมให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์นั้น แต่มันจะบอกเรานะว่า ไม่ปลอดภัยนะ อาจจะถูกดักจับข้อมูลได้ ซึ่งถ้าคุณไม่ซีเรียสก็กดเข้าไปเลย แต่มันก็ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องสักเท่าไร
DLG_FLAGS_INVALID_CA คืออะไร
Error Code: DLG_FLAGS_INVALID_CA มันมาได้ยังไง คือแบบนี้ในปัจจุบัณทุกเว็บไซต์ 99% จะให้บริการบนโปรโตคอล SSL ซึ่งมันเป็นการสื่อสารแบบเข้ารหัสระหว่างคอมของเราและเว็บไซต์ ซึ่งมันจะมีสิ่งๆ หนึ่งที่เรียกว่า Certificate ที่ตัวโปรแกรมเล่นเน็ตของเรากับเว็บไซต์ถือครองไว้อยู่เพื่อเอาไว้ยืนยันว่าข้อมูลปลายทางกับต้นถูกต้องนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า Certificate อย่างเช่น Certificate หมดอายุ หรือเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นจากหน่วยงานที่ไม่ได้รับการับรอง หรือว่ามันหายไป เว็บบราวเซอร์ของคุณก็จะแจ้งมาว่าไซต์นี้ไม่ปลอดภัยนะ แล้วก็แสดงข้อผิดพลาด DLG_FLAGS_INVALID_CA (จริงๆ มี error code แบบอื่นๆ อีกนะ) แต่ถ้าอยากจะเข้าก็แล้วแต่นะ แบบในรูปที่ 1


ดูรูปที่ 2 เคสตัวอย่าง เว็บ www.hometax.go.kr จากในรูปจะเห็นว่ามี Certificate 2 ตัวที่มีปัญหา พอเราเอาเม้าไปกดดูตรง Certificate ที่มีปัญหา มันก็จะบอกว่า “This certificate has expired or is not yet valid” พูดภาษาบ้างๆ คือ ใบรับรองที่เอามาใช้มันไม่ถูกต้องนะ หรือมันอาจจะหมดอายุไปแล้วด้วย ถ้าเราตรวจพบว่าใบรับรอง (Certificate) มันหมดอายุจริงๆ เราก็แค่อัพเดตเว็บบราวเซอร์ เพราะเว็บบราวเซอร์มันเป็นถือใบรับรอง มันเป็นคนที่เอาใบรับรองมาติดตั้งบนเครื่องของเรา แต่ส่วนมากจะเป็นอย่างหลัง ใบรับรองมันไม่ถูกรับรองหรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งผมจะมาแนะนำการแก้ไขที่ผมได้ทดลองมา
❌วิธีที่ 1 อัพเดต ไดร์เวอร์ การ์ดแลนหรือไฟไว
ลืมไปได้เลย วิธีนี้ที่เขียนอยู่ตามเว็บไซต์อื่นๆ มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย อย่าหาทำ ผ่านไปได้เลย
❌วิธีที่ 2 อัพเดตวินโดวส์
อันนี้ก็ด้วย ไม่ได้ผลหรอก ทดลองอัพเดตข้ามหลายเวอร์ชัน อัพเดตกันข้ามวันข้ามคืน สรุปคือ มั่วนิ่ม
⭕วิธีที่ 3 ลบเว็บเบราว์เซอร์แคช
อันนี้ค่อนข้างจริง มันได้ผลกับบางเคสเท่านั้น ผมจะบอกให้ว่าไปลบที่ไหน ลองทำกันดูนะ
ขั้นตอนที่ 1 ให้เข้าที่ Control Panel ใครเข้าไม่ถูกให้คลิกขวาตรงสตาร์ทเมนู ที่มันอยู่มุมซ้ายล่าง รูปโลโกวินโดวส์ จากนั้นก็คลิกไปที่ Run แล้วจะปรากฎหน้าต่างเล็กๆ ให้พิมพ์คำว่า Control แล้วกดปุ่ม OK หรือ ปุ่ม Enter เบาๆ
ขั้นตอนที่ 2 กดไปที่ Internet Options แล้วถ้าใครหาไม่เจอ ลองมองไปที่มุมขวาบน มันจะมีคำว่า View by: Category อยู่แถวๆ นั้น ให้กดที่คำว่า Category แล้วจะมีเมนูเด้งๆ ขึ้นมาให้เลือก Large Icon แล้วให้ลองหา Internet Options หาให้เจอนะ
ขั้นตอนที่ 3 ตรงดิ่งไปที่ปุ่ม Delete แล้วติ๊กลบมันทุกอย่างไปเลย แล้วกดปุ่ม Delete โปรดดูรูปที่ 3 ประกอบ เมื่อทำการลบแคชเสร็จแล้วให้ลองเข้าเว็บดู

⭕วิธีที่ 4 รีสตาร์ทเครื่องคอมของท่านแหละ
การรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ จะได้ผลกับเครื่องเปิดทิ้งเอาไว้นานจนใบรับรองหมดอายุหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ แต่ถ้าเป็นมีการปิดเครื่องเปิดเครื่องเป็นประจำก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย
⭕วิธีที่ 5 อัพเดตเว็บบราวเซอร์ หรือใช้เว็บบราวเซอร์ตัวอื่น
การใช้เว็บบราวเซอร์เก่าที่ไม่ได้อัพเดตเลย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเข้ารหัสได้ ให้ลองอัพเดตหรือไม่ก็ดาวน์โหลดมาติดตั้งใหม่ หรือลองใช้เว็บบราวเซอร์ตัวอื่นๆ ดูว่าเจอปัญหาเดียวกันหรือไม่
Google Chrome https://www.google.com/chrome/
Firefox https://www.mozilla.org/en-US/firefox/new/
Microsoft Edge https://www.microsoft.com/en-us/edge
Opera https://www.opera.com/
Brave https://brave.com/
👑วิธีที่ 6 ติดตั้งใบรับรองจากเครื่องคอมเครื่องอื่น
ถ้าดวงคุณไม่ซวยจริงคงไม่มาถึงวิธีที่ 6 ให้เราดูว่าใบรับรองตัวไหนที่มีปัญหา (ดูรูปที่ 4 วิธีตรวจสอบใบรับรองที่ใช้) แล้วให้หาไป Export ใบรับรองจากคอมอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเครื่องนั้นจะต้องไม่มีปัญหาการเข้าเว็บ
วิธีที่จะเข้าไปเอาใบรับรอง จะต้องเปิด Certificate Manager ก่อน โดยการรันคำสั่ง certmgr ใน Run Command ใบรับรองจะอยู่ในส่วนของ Trusted Root Certification Authorities (รูปที่ 5)
ในทางเดียวกันการติดตั้งก็ต้องติดตั้งกลับไปที่ Trusted Root Certification Authorities ด้วยเช่นกัน


สรุปการแก้ปัญหาหลักที่แนะนำ คือ การรีสาร์ทเครื่อง และการอัพเดตโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ให้เป็นรุ่นล่าสุด เพียงสองอย่างง่ายๆ หวังว่าจะช่วยให้ท่านผ่านพ้นปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะทำงานในสายอาชีพนี้หรือเป็นผู้ใช้ทั่วไป แล้วเจอกันบทความต่อไป