Windows 11 ได้ประกาศให้อัพเกรด ดาวน์โหลดฟรี แก่ผู้ใช้ทั่วไปในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยไมโครซอฟต์ได้กำหนดสเปคของคอมพิวเตอร์ต้องมี TPM 2.0, CPU ที่รองรับ และ Secure Boot
ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการติดตั้ง Windows 11 ที่ไม่มี TPM 2.0 หรือ CPU ไม่รองรับ หรือ ไม่มี Secure Boot ผ่านตัวติดตั้งของ Windows 10 แต่ไฟล์ที่ตัดตั้งจะเป็นของ Windows 11 ซึ่งจะทำให้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบฮาร์ดแวร์
*การติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่สนับสนุนหรือไม่ตรงกับคำแนะของไมโครซอฟต์ อาจจะทำให้การทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ ตรงนี้แบกรับความเสี่ยงกันเอาเองนะ
โน๊ตบุ๊คที่นำมาทดสอบเป็น Asus K556U Series ใช้ CPU Core i5 Gen 7 ซึ่งไม่ผ่านความต้องการของ Windows 11



ผลการทดสอบ และคำแนะนำ
จากการทดสอบบนโน๊ตบุ๊ค Asus K556U การติดตั้งสำเร็จสมบูรณ์ข้อมูลไม่หายอยู่ครบทุกอย่าง บอกก่อนว่าเครื่องนี้ใช้ Microsoft Account ในการล็อกอิน
จากการทดสอบบน Hyper-V ที่เป็นการบัญชีผู้ใช้ปกติ หลักจากการติดตั้งเสร็จ ข้อมูลบัญชีจะต้องสร้างใหม่หมด เหมือนกับลงวินโดว์สใหม่
ดังนั้นควรสำรองข้อมูลก่อนทำการอัพเกรดหรือติดตั้งใหม่
แต่ถ้าลืมสำรองข้อมูลจริงๆ ข้อมูลเก่าๆ จะถูกย้ายไปเก็บไว้ใน C:\Windows.old
ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 11
ขั้นตอนต่อไปนี้ผู้เขียนจะใช้ Hyper-V ในการทำคู่มือการติดตั้ง ขั้นตอนต่างๆ จะเหมือนกับโน๊ตบุ๊ค Asus K556U Series ทุกอย่าง
ขั้นตอนที่ 1
สร้าง Folder ชื่อว่า Windows10Setup ที่ C:\

ขั้นตอนที่ 2
Mount ไฟล์ Windows 10.ISO

ขั้นตอนที่ 3
Copy ไฟล์ทั้งหมดไปที่ C:\Windows10Setup (Folder ที่เราสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 1)


ขั้นตอนที่ 4
ลบไฟล์ install.esd ที่อยู่ใน C:\Windows10Setup\sources

ขั้นตอนที่ 5
Mount ไฟล์ Win11_English_x64.iso (Windows 11)

ขั้นตอนที่ 6
Copy ไฟล์ install.wim ที่อยู่ในโฟร์เดอร์ sources ไปวางที่ C:\Windows10Setup\sources


ขั้นตอนที่ 7
เปิดไฟล์ setup.exe ที่อยู่ในโฟร์เดอร์ C:\Windows10Setup\


ขั้นตอนที่ 8
คลิกตรง Change how Windows Setup downloads updates แล้วเลือก Not right now
คลิก Next


ขั้นตอนที่ 9
คลิก Accept

ขั้นตอนที่ 10
คลิก Next แล้วคลิก Yes


ขั้นตอนที่ 11
คลิก Install

ขั้นตอนที่ 12
รอให้ Windows 11 ติดตั้งเสร็จ

ขั้นตอนที่ 13
Windows 11 ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว
